ยัดเยียดพ่ายแพ้ ดับฝันการเป็นแชมป์ ไม่มีใครสู้ได้ ในเวลาที่เจ้าถิ่นเก็บชัย 2 เกมต่อเนื่องกัน
ยัดเยียดพ่ายแพ้ เริ่มเกมเพียงแค่ น.7 ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต แนวรุกบีจี โดนรับใบเหลืองแรก ของเกมนี้ไปอย่างเร็ว หลังไปหวดใส่ขาของ ฉัตรมงคล ทองคีรี รอบๆกึ่งกลางสนาม น.22 ช่องทางจบสกอร์ทีแรก ในเกมนี้ รวมทั้ง เป็นกลุ่มเยี่ยม “เดอะ แรบบิท” ที่แทบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต เฉือนบอลเข้าไปในกรอบจุดโทษ เอาหัวช่วยงาน
ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ สัมผัสบอลถัดไปให้กับ สุมัญญา ปุริสาย ที่อยู่โล่งๆ วิ่งเข้ามาแปบอล เน้นย้ำๆ แบบไม่จับ แต่ว่าดันยิงออกหลังไปไกล อย่างไม่น่าเชื่อ น.33 จากลูกฟรีคิก ทางฝั่งขวาของบีจี สารัช อยู่เย็น
เปิดบอลโค้งๆ เข้ามาในจุดโทษ ก่อนที่จะเป็น ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต โฉบเข้ามาโหม่งเหน่งๆ แต่ว่าทาง สมพร ยศ นายทวารกิเลนผยอง โชว์ซุปเปอร์เซฟ บินมาปัดทิ้งบนเส้นจำพวกเส้นยาแดงผ่าแปด ออกข้างหลังไปได้เฉียด
จนกระทั่ง น.42 แปลงเป็นเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ วิลเลี่ยน พอพพ์ ต่อบอลชิ่งกับ แดร์เลย์ ก่อนที่จะ วิลเลี่ยน พอพพ์ จะได้อ้าเท้า ซัดด้วยขวาตรงเส้น กรอบจุดโทษ บอลพุ่งหนีมือ ฉัตรชัย บุตรพรม แทงเสาเข้าไป อย่างงดงาม ก่อนที่จะจบครึ่งแรก ไปด้วยสกอร์นี้
ไปสู่ช่วงหลังเกมมองอึดอัดพอควร ต่างฝ่ายต่างเกือบจะไม่มีช่องทาง หาจังหวะจบสกอร์กันได้เลย
กลุ่มเยี่ยมบีจี ไม่อาจจะพาบอล เจาะเกมรับ ของเจ้าถิ่น “กิเลนผยอง” ได้ ทำให้รูปเกมมองตึงๆ ไปพอสมควรแทบ 20 นาทีอย่างยิ่งจริงๆ น.64 เกมเริ่มดุเด็ดเผ็ดมัน จากจังหวะที่ แดร์เลย์ แนวรุกเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โชว์ความสามารถ ส่วนตัวพาบอล ตั้งแต่กึ่งกลางสนาม ผลบอลไทย
ตะลุยเลี้ยงหนี วิคเตอร์ การ์โดโซ่ ไปแล้ว แต่ทว่าก่อนเข้าจุดโทษ วิคเตอร์ การ์โดโซ่ พุ่งเสียสไลด์ขาคู่จากทางด้านหลังใส่ แดร์เลย์ แม้กระนั้น ทางผู้ตัดสิน วรินทร สัสดี แจกเพียงแค่ ใบเหลืองให้กับ วิคเตอร์ การ์โดโซ่ แค่นั้น
น.74 แทบได้ประตูตีเสมอ จากลูกสูตรฟรีคิก หน้ากรอบจุดโทษ สุมัญญา ปุริสาย หลอกไม่ยิงเอง แต่ว่าตักบอลผ่านกำแพง ก่อนที่จะ วิคเตอร์ การ์โดโซ่ จะโถมตัวเข้ามาและก็กระแทกเต็มๆ แม้กระนั้น บอลดันหลุดเสาไป อย่างเฉียดฉิว
น.84 ผู้ตัดสินเช็ค VAR จุดลูกโทษ จากจังหวะที่ กรวิชญ์ ทะสา แนวรุกเอสซีจี เมืองทอง ที่เพียรพยายาม แตะต้องบอล เข้ากึ่งกลางในจุดโทษ
แม้กระนั้น ราวกับไปถูก อันเดรส ตูเญซ ชนล้มลงไป ก่อนที่จะผู้ตัดสิน วรินทร สัสดี จะขอไปดูจอด้วยตนเอง ก่อนที่จะตัดสินมิได้ให้จุดลูกโทษ แก่เจ้าถิ่นกิเลน ทะนงอะไร
ตอนทดเจ็บ น.90+5 ผู้ตัดสินเช็ค VAR ใบแดง ก่อนที่จะไปดูจอด้วยตัวเอง ท้ายที่สุด จะวิ่งมาควักใบแดง ให้กับ สารัช อยู่เย็น รับไป ทำให้บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เหลือผู้เล่น 10 คน
จนกระทั่ง ขณะที่เหลือ ไม่มีสกอร์เพิ่ม ก่อนจบเกม เอสซีจี เปิดบ้านเชือดเอาชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไปแบบสุดสนุก 1-0 หยุดสถิติเป็นแชมป์ ไม่มีพ่ายแพ้ ของกองทัพ “เดอะ แรบบิท” ได้เสร็จ ดูบอลสด
