แม่นทั้งคู่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าสายสปีดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม่นทั้งคู่

แม่นทั้งคู่ กล่าวชื่นชม เมสัน กรีนวู้ด หัวหอกรุ่นน้องว่า เป็นผู้เล่นที่ยิงประตูได้เฉียบคมทั้งเท้าซ้ายและขวา หลังเห็น ดาวยิงวัย 18 ปี กดสองประตูงามๆ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุดที่ “ปีศาจแดง” เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่ม บอร์นมัธ 5-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

เกมนี้ กรีนวู้ด กดด้วยซ้ายเต็มข้อเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 29 ก่อนที่เจ้าตัวจะทำอีกลูกเป็นประตู 4-2 ในนาทีที่ 54 จากการยิงสุดคมด้วยเท้าขวา ที่ส่งบอลทแยงมุมเข้าไปอย่างสวยงาม เพิ่มอีกนิด

“ทั้งเท้าซ้าย, เท้าขวา เขาสามารถจบสกอร์ได้แบบสบายๆ แต่ผมไม่อยากไปกดดันเขามากเกินไป ผมแค่อยากปล่อยให้เขาได้เล่นฟุตบอลตามสไตล์ของเขาเอง ก็อย่างที่พวกคุณได้เห็นในวันนี้ นั่นแหละคือสิ่งที่เขาทำ เขาทำประตูในแบบที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำได้ ถือเป็นโบนัสชิ้นใหญ่เลยกับการมีเขาอยู่ในทีม” แรชฟอร์ด ซึ่งเกมนี้ทำได้หนึ่งตุงจากลูกจุดโทษ กล่าวชมแข้งรุ่นน้อง

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือสิงโตน้ำเงินคราม พาทีมแพ้นัดแรกของการรีสตาร์ตจนได้

เมื่อถูก เวสต์แฮมทุบไปอย่างเจ็บแสบที่สกอร์ 3-2 นั่นทำให้พื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกระเทือนทันที ส่วนทาง ไนเจล เพียร์สัน พาทีมแตนอาละวาด เก็บได้แต้มเดียวจากช่วงรีสตาร์ต ทำให้อยู่อันดับ 17 เหนือโซนตกชั้นคือแอสตัน! วิลล่าเพียง 1 คะแนน 4 นาทีผ่านเป็น “สิงห์บลูส์” ได้จังหวะลุ้นก่อนเป็น เอเตียน กาปู ไปเข้าพรวดใส่ รอสส์ บาร์คลีย์ เสียฟรีคิกระยะอันตรายแต่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ซัดไปติดกำแพงอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 12 โอกาสยิงครั้งแรกของทัพ “แตนอาละวาด” เป็นจังหวะเติมสูงของ เคร็ก ดอว์สัน ตั้งป้อมซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลหลุดออกหลังไม่ได้ลุ้น อีก 3 นาทีต่อมา เชลซี ยิงตรงกรอบครั้งแรกเป็นบอลทางขวาของ วิลเลี่ยน หลุดขึ้นมาก่อนลากตัดเข้าในแต่งหาจังหวะตะบันด้วยซ้ายเข้ามือ เบน ฟอสเตอร์ รับไว้ไม่มีหลุด ผลบอลไทย

นาทีที่ 19 เจ้าถิ่น เร่งเครื่องต่อเนื่องได้ลุ้นยิงอีกรอบจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษไปติดขา เบน ฟอสเตอร์ ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ แต่แล้วนาทีที่ 28 “สิงห์บลูส์”! ออกนำจนได้เป็นจังหวะจ่ายของ รอสส์ บาร์คลีย์ แทงช่องต่อให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ สอดมารับก่อนตวัดหักข้อหนี เคร็ก ดอว์สัน บอลผ่านหน้า เบน ฟอสเตอร์ เสียบเสาสุดสวย

ท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น มาบวกสกอร์เพิ่มจนได้เป็นความผิดพลาดของ เอเตียน กาปู เสียเหลี่ยมเข้าพรวดใส่ คริสเตียน พูลิซิช ในกรอบเขตโทษผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นจุดโทษทันที วิลเลี่ยน รับหน้าที่สังหารไม่มีเหลือ หมดครึ่งเวลาแรก! เชลซี 2 วัตฟอร์ด 0 ครึ่งหลังนาทีที่ 59 “สิงห์บลูส์” ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะแหวกของ วิลเลี่ยน พาบอลลุยเข้าในก่อนสุดท้ายเป็น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หลุดเข้าไปตวัดด้วยซ้ายติดบล็อค เคร็ก ดอว์สัน ช่วยเซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 67 เจ้าถิ่น บุกอยู่ฝ่ายเดียวคราวนี้เป็น วิลเลี่ยน โชว์ลีลาพาบอลเข้าในก่อนปั่นด้วยขวาบอลโค้งอ้อมแนวรับ วัตฟอร์ด เกือบเสียบเสาแต่ เบน ฟอสเตอร์ ลอยมาปัดออกหลังไปได้นิดเดียว ก่อนหมดเวลา 15 นาที โอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของ “แตนอาละวาด” เป็น อดัม มาซินา ที่ลงสนามเป็นตัวสำรองตั้งป้อมซัดไกลด้วยซ้ายบอลพุ่งแรงแต่ตรงตัว เกปา อาร์รีซาบาลาก้า รับได้ไม่พลาด ดูบอลสด

นาทีที่ 80 วัตฟอร์ด พลาดโอกาสทอง นาธาเนียล ชาโลบาห์ ตัดบอลจากเท้า บิลลี่ กิลมอร์ ก่อนแทงต่อให้ แดนนี่ เวลเบ็ค หลุดเข้าไปเอียงตัวยิงด้วยขวาติดปลายมือ เกปา ปัดออกหลังไปได้อย่างเหลือ เชื่อ ช่วงท้าย เชลซี หวิดได้จุดโทษอีกรอบเป็น คริสเตียน พูลิซิช คนเดิมโดน เอเดรียน มาริอัปปา เบียดล้มลงไปแต่ ไนเจล เพียร์สัน เช็ควีเออาร์ ตัดสินว่าลูกนี้ไม่เป็นจังหวะฟาวล์

โอกาสอีกครั้งของ “สิงห์บลูส์” เป็นลูกครอสของ รีซ เจมส์ ตักลึกไปเสาไกลให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค สอดมาโหม่งโล่งๆหลุดข้ามคานออกไปอีก ช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่น มาได้ประตูปิดกล่องจนได้จากบอลทางซ้ายของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า! เติมขึ้นมาจ่ายเข้าให้ รอสส์ บาร์คลีย์ แต่งด้วยขวาก่อนตวัดด้วยซ้ายยัดเสาแรกเข้าไป จบเกม เชลซี 3 วัตฟอร์ด 0 ลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เก็บเพิ่มเป็น 57 คะแนนแซง แมนยู 2 แต้มทวง ท็อปโฟร์ คืนสำเร็จ